สายลมแห่งความอ่อนโยนและอบอุ่นกับ CGM48 รุ่นที่ 1
-
Theethawat Savastham
- 09 Aug, 2025

เป็นเวลาเหลืออีกไม่ถึง 1 เดือนก็จะครบ 6 ปีแล้ว สำหรับ CGM48 รุ่นที่ 1 สำหรับวงน้องสาวไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปรุ่นพี่ อย่าง BNK48 และ AKB48 ของญี่ปุ่น CGM48 ย่อมาจาก Chiangmai 48 ซึ่งก็เป็นวงที่มาจากเมืองเชียงใหม่ของไทยเรานี่เอง ล่าสุดเพิ่งปล่อยซิงเกิ้ลส่งท้ายของรุ่นที่ 1 ที่จะหมดสัญญา และ จบการศึกษาจากวงไป ผมเองก็มีความทรงจำเล็กๆ ที่ล่องลอยบนสายลม ที่จะมาบอกกับตัวเอง และบอกกับ CGM48 รุ่นที่ 1 เหมือนกัน
สายลมแห่งการเติบโต
CGM48 เปิดตัวโปรเจกต์นี้ครั้งแรกน่าจะเป็นช่วงของ Single ที่ 6 หรือ 7 ของวง BNK48 ที่มีการเดินทางไป Roadshow ที่เมืองเชียงใหม่ แล้วเปิดโปรเจกต์นี้ขึ้นมา (ถ้าจำไม่ผิดนะ) แล้วก็มีพี่ออม กับ พี่รินะ ย้ายไปที่เชียงใหม่ด้วย จริงๆ ตอนแรก ด้วยความที่ตอนนั้น ใจผมมันไม่รู้ไปอ่อนแอกับเหตุการณ์อะไรสักอย่าง ซึ่งผมจำไม่ได้แล้ว หรือท้อกับเหตุการณ์อะไรอย่างนึง ซึ่งไม่เกี่ยวกับ BNK ตอนนั้น BNK48 ก็ยังอยู่ในช่วงที่รุ่งเรืองอยู่ มีงานพรีเซนเตอร์ต่างๆ อยู่ แต่อาจจะไม่ใช่จุดสูงสุดของวง ผมเลยรู้สึกว่า แบบเออวงมันจะเปิดวงย่อยมาแข่งกับตัวเองทำไมว่ะเนี่ย ยังดันรุ่น 1 รุ่น 2 ยังไม่ครบเลย บวกกับสถานการณ์บางอย่างของวงตอนนั้นก็ไม่ค่อยดีนักมั้ง แต่ผ่านไปสักพัก เราได้เห็น มิวนิค (Mewnich) เมมเบอร์ BNK48 รุ่นที่ 2 ในตอนนั้น แชร์โพสต์ หรือ แชร์เพจ CGM48 นี่แหละ แล้วก็พูดประมาณว่าฝากน้องๆ วงใหม่ของเราด้วย ผมก็เลยคิดว่า เออ น้องมันยังสู้เลย ถึงแม้ว่าเออมันจะมีคู่แข่งมาเพิ่มอ่ะนะ น้องเขายังภูมิใจกับการที่วงได้เติบโตเลย เราเองก็เช่นกัน ผมเริ่มกดถูกใจเพจ CGM48 ตั้งแต่วันนั้น โพสต์นั้นของน้องมิวนิคทำให้เรารู้สึกอย่างนึง น้องเขาอาจจะไม่ได้คิดอะไร แต่ในส่วนตัวผมเอง ก็ได้รู้สึกว่า เออบางอย่างมองมุมนึงในชีวิตของเรา เราอาจจะต้องเจอคู่แข่ง หรือทางเดินที่มีอุปสรรคมากขึ้น แต่เราก็จะเติบโตขึ้น ซึ่งทำให้ผมมีแรงไปทำอะไรสักอย่างในสถานการณ์นั้น ซึ่งผมจำไม่ได้แล้ว แต่ก็นั่นแหละ ผมก็เป็นเหมือนหลายๆ คน ที่ได้ถูกใจเพจวงตั้งแต่วันที่ 0 ของวง
สายลมแห่งการเริ่มต้น
อีกไม่กี่เดือนต่อมา CGM48 ก็เปิดตัวเมมเบอร์รุ่นที่ 1 ขึ้นมา ผมก็ตั้งใจจะ Follow ทุกคนอยู่แล้วแหละ แต่ก็มาเปิดดู จะชอบใครดีน้า คนแรกที่เห็นรูปโปรแรกแล้วแบบน่าสนใจก็คือ น้องปะริมะ (ซึ่งปัจจุบันจบการศึกษาจาก CGM48 ไปแล้ว) เพราะรูปโปรแรกคือสวยมาก แต่ก็อาจจะยังไม่ใช่แนวมากนัก แต่ตอนนั้นคือน้องอายุน้อยมากเลยนะ เกิดปี 2005 ซึ่งก็คือรุ่นเดียวกันกับ BNK48 ที่อายุน้อยที่สุด อย่างน้องนิกี้ แต่คนที่ถูกใจจริงๆ เริ่มมาจากตอนที่ย้อนกลับไปดูคลิปตอนเปิดตัวแนะนำตัว ดู Catchphrase รู้สึกถูกชะตากับ น้องนีนี่ (Nenie CGM48)
นีนี่ น้องเกิด 2002 อายุน้อยกว่าผม 4 ปี ตอนนั้น ผมถูกชะตากับคนที่เกิดอายุประมาณนี้หลายคน ทั้งโมบายล์ (อดีต BNK48) ที่เป็นคามิโอชิของผมในเวลานั้นก็เกิดปี 2002 เหมือนกัน น้องมิวนิคที่ผมเริ่มเอ็นดูก็เกิดปีนี้ รวมถึงแคชเฟสที่เกี่ยวกับกระต่ายด้วย มันดูน่ารักดี แล้วผมก็เพิ่มนีนี่ เป็นโอชิ ตั้งแต่วันนั้น มารู้อีกทีว่าน้องเป็นคนอุดร และมีเชื้อสายเวียดนามด้วย ความรู้สึกแรกของ CGM48 ทั้งหมดในตอนนั้นคือ น้องๆ เด็กมาก คือตอนนั้นมองว่า 2002 ก็ไม่ได้เด็กหรอก แต่แบบ สิตา ซึ่งเป็นเหมือนกับ Visual หรือ Icon ของ CGM เกิดปี 2003 ซึ่งก็คือปีที่น้อยที่สุดของ BNK48 รุ่นที่ 1 เพราะเกิดปีเดียวกับ ซัทจัง (อดีต BNK48) แล้วก็คนอื่นๆ ที่เกิด 2004 - 2006 แล้วก็จะเป็นฟิวแบบเด็กสดใสๆ ซึ่งจริงๆ การเข้ามาของ CGM48 รุ่นที่ 1 มันรู้สึกแตกต่างจาก BNK48 รุ่นที่ 2 นะ คือแบบเด็กน้อยอ่ะ รอการเติบโต
สายลมแห่งเจียงใหม่เริ่มต้นแล้วจ้าว
CGM48 เปิดตัวมาด้วยเพลงอย่าง เชียงใหม่ 106 ด้วยกระแสตอบรับที่ดีมาก ยอดวิวทะลุล้านวิวอย่างรวดเร็ว MV สวยมาก ซึ่งผมชอบเพลงนี้มากนะ แบบชุดก็สวย รู้สึกแบบหลุดออกมาจากเมือง คือดู MV ปกตินี่แหละแต่สัมผัสได้ถึงลมหนาวที่กำลังมาถึง ตอนแรกจริงๆ ผมก็ชมนะ แต่ลึกๆ ก็แอบหมั่นใส้นิดนึง คือตอนนั้นอ่ะ ผมเป็นคนแบบว่า ในการแสดงออกเราก็โอเค แต่แบบลึกๆ ด้วยนิสัยตอนนั้นแบบเวลามีใครทำได้ดีกว่าที่เราเคยทำได้ มันจะรู้สึกแบบ หมั่นไส้นิดหน่อย เหมือนกับเริ่มไม่ปลอดภัย แบบทำไมมันดีกว่า BNK ที่เรารักและผูกพันอยู่ว่ะ มันจะมาดังแทน BNK ของเรารึเปล่า เออจริงๆแล้ว ผมเชื่อว่าในทางจิตวิทยา มันก็จะเป็นความคิดลึกๆ ของคนอ่ะ แต่ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตอนนี้ผมเองก็โตขึ้นมา 6 ปีละ จากวันนั้นก็รู้สึกว่าความรู้สึกอะไรแบบนี้ มันก็จางลงไปเยอะละ ผมค่อนข้างจะโตขึ้น แล้วก็ยินดี และชื่นชม คนที่ดีกว่าเรา จากใจจริงมากขึ้น โอเค กลับมาเรื่อง CGM ต่อ ก็ไม่มีอะไร วงก็ไปเรื่อย ๆ ทั้ง Melon Juice, มะลิ ตอนนั้นอ่ะสังเกตได้เลยว่า เฮ้ยวงนี้มัน Save เอกลักษณ์ของตัวเองอ่ะ คือชุดของเขา มีสีฟ้าตลอดเลย อาจจะมาในรูปน้ำเงินบ้าง ฟ้าโทนนู้นโทนนี้บ้าง แต่ก็เป็นฟ้า
แล้วตอนนั้นก็เริ่มมีปันใจไปให้น้อง คนิ้ง (Kaning CGM48) บ้างในฐานะแบบโอชิมหาชน ที่แบบน่ารัก แล้วก็มี สิตา (Sita CGM48) บ้างในฐานะแบบ Icon ของวง ตอนนั้นอ่ะ ผมก็อาจจะมองว่าสิตาอาจจะแรงนิดนึงนะ ด้วยสภาวะที่สังคมช่วงนั้นมันอ่อนไหวด้วย แต่พอได้ฝังสิตาใน Live จะพบว่า เออเวลาเราเห็นข้อความเขาเอามาลงมันดูแรง แต่พอได้ฟังใน Live สิตา แล้วรู้สึกมันโกรธไม่ลงอ่ะ สิตาเสียงหวานมาก ทุกอย่างมัน Soft ลงอ่ะ ก็รู้สึกว่าเออน้องก็ไม่ได้แรงอะไรนิ เราก็มีความเข้าใจน้องมากขึ้น รวมถึงเข้าใจความคิดของเด็กมากขึ้น ซึงมีทั้งที่เหมือนกัน และอาจจะต่างกันบ้างในรายละเอียด แต่นี่คือสิ่งที่ BNK และ CGM ให้ผมมาตลอด 8 ปีของวง มันทำให้เรามองคนละเอียดขึ้น ไม่ตัดสินใจอะไร หรือ ยอมรับ และเข้าใจในความหลากหลายมากขึ้น จริงๆ นะ ไปอ่านได้ในโพสต์ที่เขียนถึง BNK48 นะครับ
สายลมแห่งเสียงเพลง
มันมีเพลงๆ หนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่า ผมเริ่มชอบเพลงของ CGM48 ขึ้นมาแล้ว นั่นคือเพลงรองของ Single ที่ 2 อย่างเพลง เส้นทางของผู้ใหญ่ ผมไม่ได้ดูสดเปิดตัวซิงเกิ้ลที่ 2 นะ แต่ว่าพอเขาเอามาตัดเป็นเพลง ผมเลยได้ฟังเพลงนี้ ปรากฎว่าผมชอบมากและขนลุกมากเช่นกัน เนื้อเพลงมันสุดยอดบีบหัวใจจริงๆ
หยดในตา ปาดมันซะ เก็บเอาไว้แล้วเดินออกมา มองย้อนไป เห็นด้วยใช้ Oto na e no michi
แล้วยิ่งการแสดง First Performance ตอนนั้นทุกคนซึ่งเป็น Undergirl ทำออกมาได้ดีมาก ตอนจบแทบจะมีแบบกลั้นน้ำตา ทั้งน้องปิ้ง นีน่า แชมพู เจเจ ฟ้าใส ลาติน แล้วก็น้องณิชา นี่คือแบบเพลงไอดอล เพลงอารมณ์ เพลงปลุกใจที่แท้ทรู แล้ว CGM48 ทำเพลงออกมาได้ดีมากๆ ในทุกเพลงเลย ต้องชมทั้งคนที่แต่งเพลงฝั่งญี่ปุ่น ฝั่งไทย เมมเบอร์ แล้วก็เบื้องหลังทุกคนเลย
นอกจากนี้ก็ยังมีอีกเพลงที่ชอบเลยคือ เพื่อใครสักคน ซึ่งเป็นเพลงให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ในโควิด 19 และเหตุการณ์ไฟป่า จริงๆ เพลงนี้เองก็มีท่อน Impact หลายๆ ท่อน โดยเฉพาะท่อนสุดท้ายที่ว่า
โลกใบนี้เราจะดีสักแค่ไหน ถ้าไม่วุ่นวายไม่มีการโต้แย้ง ไม่มีแย่งชิงรวมใจเป็นใจเดียว ฉันก็จะร้องเพลงนี้เพื่อเธอ ให้ดังก้องไกลกว่าข่าวนี่โง่เขลา ให้กลบทุกข์ภัยและโรคภัยร้าย ให้โลกสวยงามบทเพลงของความรัก ฉันก็จะร้องเพลงนี้เพื่อเธอ
ไม่ใช่แค่ท่อนนี้นะ จริงๆ ทั้งเพลงนี้เนื้อร้อง Impact เกือบทุกท่อน ผมเองต้องไปดูชื่อคนแต่งเพลงทันทีที่เพลงจบ ปรากฏว่าก็คือครูปิ๋ม ครูใหญ่ และผู้จัดการวง BNK48 ณ ตอนนั้น ซึ่งเพิ่งรู้ว่าครูปิ๋มเองแต่งเพลงดีมากๆ แล้วเพลงนี้ยังเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ตอนที่ผมพิมพ์บทความนี้อยู่ด้วย
ในซิงเกิ้ลที่ 3 ก็ไม่แพ้กัน ทั้งเพลงมะลิ ที่เปิดฟังซ้ำๆ อยู่หลายครั้ง แล้วก็อีกเพลง ที่เรียกว่าเป็นเพลงที่ BNK เอาไปใช้บ่อยที่สุดในบรรดาเพลงของ CGM เลยมั้ง นั่นก็คือเพลง บ้านแห่งหัวใจ เพลงนี้ผมเห็นตอนแรก โอ้โห 7 นาที แต่พอฟังแล้วจริงๆ รู้สึกว่ามันผ่านไปเร็วมาก เนื้อเพลงมัน Impact และเล่นกับอารมณ์ได้ดีมาก
ยังไม่หมดแค่นี่ เพลงที่ผมชอบใน CGM48 ยังมีอีก เช่น เพลง หมุนไปนะตามโชคชะตา อันนี้ชอบมากๆ เลย ยกให้เป็นเพลงที่ชอบที่สุดใน CGM48 เลยก็ได้ ผมชอบเนื้อเพลงที่ว่า
เมฆขาว ๆ ที่ลอยเรียงราย อยู่บนท้องฟ้ามากมายเหล่านั้น มีก้อนไหนที่ลอยล่องเร็วไปกว่ากัน นั่นมันไม่สำคัญเลยเธอรู้ไหม และพรุ่งนี้ถึงแม้ว่าเธอจะออกตัวช้าไม่เร็วกว่าใคร แต่ตอนนั้นบางทีสายลมก็อาจพัด เปลี่ยนทิศทางเลย ช่างง่ายดาย
ผมว่าเนื้อเพลงมันกินใจมากเลยนะ ต้องยอมรับเลยว่าครูแมนนี้สุดจริงเรื่องการเลือกสรรตัวอักษร และ การใช้คำ ยิ่งผมเองเป็นคนที่ทำอะไรมักจะช้าไปกว่าคนอื่นก้าวหนึ่งเสมอ ทั้งตอนเรียนขับรถ ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ผมมักจะต้องมี Extra Time เพิ่มขึ้นมาเสมอ แต่จริงๆ แล้วความสำเร็จของแต่ละคน มันไม่ได้มาพร้อมกัน หรือไม่ได้มีลิมิตเวลาว่ามันต้องมาในเวลาไหน ขอแค่พยายามเพิ่มอีกหน่อย รอให้โอกาส รอให้สายลมพัดมา รอโชคชะตาบ้าง มันก็จะสำเร็จได้อย่างแน่นอน โอกาสจะมาในเวลาที่เหมาะสม
ยังไม่หมดอีกนะครับ อีกเพลงหนึ่งที่ผมชอบมาก ๆ ก็คือ เนินเขาแห่งความฝัน เพลงก่อนล่าสุดที่เอง ก็มีถ้อยคำ หรือ ประโยคที่คมๆ หลายประโยคเลยแหละ ทั้ง
ตรงนั้นดูแห้งแล้ง แต่ดอกไม้แห่งฝันกำลังบานอยู่นั่นไง
หรือ “ฝากไปถึงคนที่มาทีหลังดินแดนนี้ ชีวิตที่ต้องนอนที่นี่ (นับจากวันนี้)บนนั้นยังมีที่ให้ความฝัน ที่ว่างยังคงมีอีกมากมาย” และสุดท้ายเพลงล่าสุดอย่างสายลมแห่งความทรงจำ ก็เป็นเพลงที่มีเมโลดี้ที่เพราะมากๆ รวมถึงเนื้อเพลงด้วยเช่นกัน
ทั้งหมดนี้ก็ต้องขอชื่นชมทั้งทีมงานไม่ว่าจะเป็นเมมเบอร์ ทีมงานเบื้องหน้า หรือ ทีมงานเบื้องหลัง ที่ทำหลายๆ สิ่งออกมา ถึงแม้ไม่ได้สมบูรณ์แบบที่สุดในทุกๆ อัน แต่ก็เป็นสมบัติล้ำค่าของเมืองไทยเลย ถามว่าเสน่ห์ที่สำคัญที่สุดของ CGM48 อยู่ตรงไหน โดยความเห็นส่วนตัว ผมว่าอยู่ที่เพลงและองค์ประกอบไม่ว่าจะ MV หรือ Artwork นี่แหละ มันไม่ใช่ว่าทุกๆ วงจะสามารถสร้างเพลงแบบนี้ ซึ่งไม่ใช่เพลงตลาดออกมาได้ และอีกอย่างวงต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ฐานจะอยู่ในเมืองหลวง ก็อาจจะไม่สามารถได้ Location สวยๆ ที่คลุกเคล้าไปกับอารมณ์เพลงแบบนี้ด้วย
สายลมแห่งการพบเจอ
ผมเองรอคอยการมาของ BNK48 Roadshow ที่หาดใหญ่ของผมบ่อยมาก ซึ่งจริงๆ เขาก็มาบ่อยอยู่นะ แต่บังเอิญว่า ตัวผมเองนี่แหละที่มีปัญหา ตอนซิงเกิ้ลดีอ่ะ ตอนนั้นมีมิวสิคมาด้วย อยากเจอมาก แต่ผมดันเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจาก COVID-19 ซะด้วย เพราะพี่ที่ทำงานผมเพิ่งติดมา ผมเองเลยต้องมาอยู่แต่บ้าน ไม่ได้ไปไหน แต่แม่ผมไปเซ็นทรัลพอดี ถ่ายรูปมาให้ดู อีกซิงเกิ้ลหนึ่งคือซิงเกิ้ล Sayonara Crawl รอบนี้เป็นผมเองที่ต้องมาพบกับประสบการณ์แห่งยุคสมัย ใช่ครับ ผมติดโควิด ด้วยความที่เป็นค่อยป่วยบ่อย แต่ป่วยแต่ละทีทรมานมาก และก็ได้แต่ Fancam อีกตามเคย
BNK48 ก็ผ่านไปอีกซิงเกิ้ล รุ่นที่ 1 ก็ผลัดใบ จนเข้าสู่ปีใหม่ อยู่ๆ เซ็นทรัลหาดใหญ่ก็โพสต์ว่า ชาวหาดใหญ่อยากเจอ CGM48 คนไหนบ้าง หา ฝันที่ไม่กล้าฝัน CGM มาหาดใหญ่ คิดดูสิ จากภาคเหนือลงมาแบบใต้เลย กว่า 2000 กิโลเมตร ไม่คิดเลยว่าวันนึงหาดใหญ่จะมีโอกาสได้ต้อนรับ CGM48 ใน Roadshow แรกของซิงเกิ้ล 2565 โดยนำทีมมาโดยเซนเตอร์อย่างมามิ้งค์ กัปตันวงอย่างพี่ออม ฟอร์จูน น้องเหมย น้องพันซ์ และน้องพิม ในเดือนมกราคม 2566
จริงๆ ตอนแรกผมตั้งใจจะไปตั้งแต่วันเสาร์ แต่บังเอิญว่าไอข้าวตัง แมวของผม มันดันหนีไปเที่ยวจากบ้าน หายังไงก็หาไม่เจอ เลยไม่กล้าออกไปไหน เพราะตอนนั้นอยู่บ้านคนเดียวด้วย แถมพ่อกับแม่ก็เป็นห่วงไอเจ้าข้าวตัง ผมบอกว่า พรุ่งนี้ต่อให้แกไม่มาฉันก็จะไปละนะ ไปได้เจอแป็บเดียวก็ยังดี แต่ดูเหมือนข้าวตังจะทนกับท้องร้องไม่ได้ ตอนเย็นวันนั้น มันก็เดินกลับมาทำตัวไม่รู้ไม่ชี้ มาขอข้าวกินเหมือนเดิม ผมลูบหัวมันทีนึงด้วยความหมั่นเขี้ยว
วันรุ่งขึ้นหลังจากให้อาหารแมวเสร็จ ผมก็ขับรถมาที่เซ็นทรัลหาดใหญ่โดยทันที แล้วเข้าไปรอในพื้นที่ของงาน ซึ่งครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้ร่วมงานอย่างเป็นทางการของ 48TH แม้ว่าจะเคยร่วมงานของผู้สนับสนุนที่จ้างวงมาบ้าง แต่ที่เป็น Roadshow คือครั้งที่ 2 บรรยากาศในครั้งนี้มันแตกต่างจากครั้งที่แล้วมาก เอาจริงๆ ผมชอบนะ มันรู้สึกอบอุ่นดี มันใกล้ชิดดี ครั้งแรกที่ไปเป็น Single Beginner ที่นี่เหมือนกับ ตอนนั้นคนเยอะมาก ผมจำได้ว่ากว่าได้ Hi-Touch รอบนึงคือรอเป็น 2 ชม. รอบนี้รู้สึกเหมือนมันเป็นครอบครัว (แต่จริงๆ ก็อยากให้วงกลับไปมีแฟนคลับกว้างๆ แบบเดิมอยู่นั่นแหละ วงจะได้มีเงินบ้าง) ผมได้ฟังทั้งเพลง 2565 เพื่อใครสักคน เธอก็คือฉัน บ้านแห่งหัวใจ Believers แล้วปิดด้วย Melon Juice เป็น Set List ที่ผมชอบมากๆ ตอนแรกก็คิดอยู่นะว่า ตอนนั้นเวลาไป Roadshow ที่ไหน วงก็มักจะใช้เพลงเดิม ๆ เพราะตอนนั้นเพลงก็ไม่ได้เยอะ ของ CGM อ่ะ มันดูสนุกเหรอ แต่จริงๆ มันต่างกันเลยครับ การดูเพลงเดิม ๆ ใน Youtube หรือ Fancam อาจจะธรรมดา แต่การได้มีโอกาสได้ดูเพลงที่เป็น Signature ของวงแบบสดๆ แบบนี้ มันสุดๆ เลย แล้วชุดคือสวยมาก แสงไฟก็ดีมาก รวมกันแล้วลงตัวสุดๆ นางฟ้าชัดๆ ทั้ง 6 คนเลย
หนึ่งในสายตาของผมที่มองไป เหมือนจะถูกล็อกอยู่กับน้องคนหนึ่ง ซึ่งคนนั้นคือ น้องพิม **(Pim CGM48)**ที่น้องยืนเซ็นเตอร์ในเพลง Believers ด้วย ผมว่าน้องเล่นหูเล่นตาเก่งมาก ยิ้มเก่งมาก คือไม่แปลกใจเลยว่าทำไมน้องถึงเป็นแบบหนึ่งในตัวยืน หรือ เป็นเซ็มบัตสึในเพลง Believers ของวง BNK48 ผมว่าน้องเขาเหมาะสมจริง ๆ แล้วตอน Hi-Touch คือน้องคุยเก่งมาก ผมจำได้ไม่หมดหรอกนะว่าคุยอะไรกันบ้าง แต่ก็มีแบบน้องถามว่าพี่กินข้าวแล้วยังคะ เราก็ตอบว่ากินแล้ว น้องตอบกลับ อ๋อดีมากเลยค่ะ เราก็พูดต่อ แต่มื้อเช้านะ มื้อเที่ยงยังไม่กินเลย น้องเลยบอกว่า พี่ต้องไปกินข้าวด้วยนะ เออ น้องไล่ผมไปกินข้าวแล้วอ่ะ 555 ผมน้องพิมตกไปเต็มๆ เลย รอบสุดท้ายก็ไปยอมรับกับน้องว่า น้องพิม พี่โดนน้องพิมตกอ่ะ น้องก็บอกว่า จริงเหรอคะ เย้ กดโอชิหนูในแอพแล้วยัง ยังไม่กดเลย เดี๋ยวไปกดให้นะ ได้เลย กดโอชิด้วยนะ เรียบร้อยผม ก็แพ้อะไรแบบนี้แหละ มากิจกรรม 48TH ทีไร ได้โอชิกลับไปทุกทีเลย ครั้งนั้นก็ได้น้องอุ้ม (Oom Natcha อดีต BNK48 รุ่นที่ 2) ไป ครั้งนี้ได้น้องพิมเฉย
ถึงน้องพิมวันนั้นน้อง Shine และสดใสมากเลย แต่ก็บางช่วงก็เห็นน้องน่าจะเครียด ๆ หรือ กดดัน หรือ อาจจะต้องทำในสิ่งที่แบบไม่ใช่ทางถนัดของน้อง เลยเห็นว่าเออน้องอาจจะไม่ได้ Shine หรีอ แววตาเปร่งประกาย เหมือนช่วง Believer หรือ 2565 แต่แบบ 2 ซิงเกิ้ลล่าสุด คือเนินเขา แล้วก็ สายลมแห่งความทรงจำ เห็นน้องกลับมาสดใสเหมือนเดิมแล้ว เนินเขาก็ออร่าจับมากเลยยิ่งใน Part ของสตอรี่ แล้วก็ในเพลงสุดท้ายก็เหมือนกัน ตอนเต้นกับนีนี่ ในตอนแสดงถึงเพลง Sansei Kawaii มันน่ารักมากเลย ยิ่งอยู่กับนีนี่ด้วย อาจจะเพราะชุดด้วย รอยยิ้มด้วย เวลาเห็นน้องยิ้มกว้างๆ รู้สึกออร่ามันจับ น้องพิมเป็นคนน่ารักและ Service แฟนคลับดีคนนึง หาทางที่น้องถนัดและน้องเปร่งประกายเจอ น้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
กลับมาที่งาน ผมได้ทำทุกๆ อย่างที่อยากทำเลยตั้งแต่ดู Mini Concert, Group Hi-Touch, Café ไป Trading Zone แล้วรอส่งน้อง ๆ กลับ 5555 รอบสุดท้ายของ Hi-Touch
- พี่ออม ผมบอกพี่ออมไปว่า ขอบคุณนะครับพี่ออมที่ดูแลน้อง ๆ อย่างดี แล้วก็พาน้อง ๆ มาหา พี่ออมก็บอกว่า ขอบคุณคุณเหมือนกันที่คอยสนับสนุน
- น้องเหมย ผมถามน้องว่า ได้ไปเที่ยวไหนยัง สู้ๆ นะ เป็นกำลังใจให้
- น้องพันซ์ บอกว่าเป็นกำลังใจให้สำหรับงาน Circle Jam ที่จะถึงนะ น้องบอกกลับมาว่า ขอบคุณนะคะ พี่ได้ไปมั้ย พี่ไม่ได้ไป ไว้มีโอกาสขอให้ได้เจอกันอีกนะ น้องตอบผมว่า ไม่เป็นไร ไว้เจอกันนะ
- ฟอร์จูน บอกว่า ฟอร์จูนเป็นคนที่ทำให้ไก่ทอดหาดใหญ่ดูแบบวิเศษขึ้นมาเลย ด้วยความที่ผมเป็นคนหาดใหญ่อ่ะนะ ไก่ทอดเกือบ 80% ก็จะเคลมตัวเองว่าเป็นไก่ทอดหาดใหญ่ (ถึงแม้จะไม่ใช่ออริจินัลก็ตาม) ไม่ว่าไปที่ไหนก็มีหอมเจียว ไม่ว่าไปที่ไหนก็คล้าย ๆ กัน จนเราก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าเออ ไก่ทอดหาดใหญ่ มันมีคำจำกัดความว่าอะไรกันแน่ (ต่อมาถึงได้รู้ว่าต้นตำหรับออริจินอลจริงๆ เขาไม่ได้ใช้คำว่าไก่ทอดหาดใหญ่แล้ว แล้วก็ได้รู้ว่าออริจินอลอยู่ที่ไหน) แต่ก็ช่างเถอะ ไก่ทอดหาดใหญ่ ก็กลายเป็น Soft power ของอำเภอไปแล้ว และเมื่อคนอื่นมาหาดใหญ่ ก็นึกถึงไก่ทอดหาดใหญ่ หนึ่งในนั้นคือฟอร์จูน ซึ่งได้โพสต์ในสตอรี่ และใน iAM48 มั้ง ถึงเรื่องนี้บอกว่ามันอร่อยมาก มันวิเศษมาก โอเค ผมก็เลยภูมิใจ ฟอร์จูนกับมามิ้งค์จะอายุน้อยกว่าผมอยู่ปีนึง
- มามิ้งค์ จำไม่ค่อยได้เท่าไหร่ว่าพูดอะไรกับมามิ้งค์บ้าง แต่ก็น่าจะขอบคุณ ยินดีด้วยกับตำแหน่งเซ็นเตอร์ แล้วก็ให้เป็นกำลังใจให้นี่แหละ
โอ้ย ฟิน เอาจริงๆ ผมจะไม่มีวันลืมความสุขของวันนั้นเลย เป็นวันที่รู้สึกว่าใจฟูมาก ได้เติมเต็มความสุข คือเราไม่เคยเจอหน้ากันนะ แต่เราคุยกันเหมือนว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อนเลยอ่ะ ผมอาจจะคิดไปเองแหละ แต่เอาเป็นว่าผมจะไม่ลืมเลยว่า CGM48 รุ่นที่ 1 เคยมอบความสุขให้กับผมในวันนั้น ผมไม่ได้มีตังมากนะ เสียไปไม่กี่บาทหรอก ประมาณพันนิดๆ 1200 ถ้าจำไม่ผิด ถ้าเทียบกับคนอื่น ผมน่าจะน้อยแหละ แต่ก็ได้ละ
สายลมแห่งการก้าวเดิน
ย่อนหน้าแรกนี้ผมจะพูดถึงนีนี่เลย โอชิและคามิของผมใน CGM48 แม้ว่าจะไม่ได้เป็นคามิในแอพ iAM เพราะว่ามันใส่ได้แค่คนเดียว แต่ใน CGM นีนี่คือคนที่ผมตามมาตั้งแต่ช่วงแรก ๆ เลย น้องน่ารักมาก มีความกระต่ายอย่างที่บอกแหละ ดีใจที่น้องได้รับเลือก ได้ติดเซ็มบัตสึ ได้มีผลงานต่าง ๆ ผมรู้สึกว่านีนี่เองก็เติบโตมาเรื่อย ๆ น้องสวยและน่ารักอยู่แล้วตั้งแต่วันนั้น แต่เวลาที่ผ่านไป น้องเองก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ความสวยก็แบบชัดเจนยิ่งขึ้น จนแบบตอนนี้คือน้องเป็นคนสวยมาก ๆ คนนึงเลย คือสวยเลยอ่ะ ดีใจที่น้องพัฒนาขึ้นมากๆ เลยตั้งแต่วันแรก จากคนธรรมดา มาเป็นตัวยืนในเซ็มบัตสึของวง มาเป็นเซ็มบัตสึวงพี่อย่าง BNK48 แล้วก็ได้ที่ 3 จากงาน GE ครั้งล่าสุด รวมถึงผมมองว่านีนี่อ่ะ Shine มากในเพลง Kiss Me ซึ่งมันเหมือนว่าจริตน้องมาทางนี้จริง ๆ
พี่อยากจะบอกนีนี่ว่า พี่ขอโทษนะน้องที่ไม่ได้ซัพพอร์ตน้องเท่าที่ควร อาจจะแบบรู้ว่านีนี่ไปถึงอยู่แล้วบ้างในหลายอย่าง แต่จริงๆ ผมเองก็อยากเป็นส่วนหนึ่งของมันเหมือนกัน แต่ก็ไม่ค่อยได้ช่วยเท่าไหร่ ต่อไปก็จะรอติดตามผลงานของนีนี่นะ เชื่อว่ามีเยอะอย่างแน่นอน นีนี่เป็นคนที่ครบเครื่องมากคนนึง จะหวานก็ได้แบบใน 2565 หรือจะเฟียสๆ ใน Kiss Me หรือ Do Love Me ก็ได้ หรือแบบ Sad Cupid หรือ เพลงที่น้องแต่งเองอย่าง อย่ามาทำให้เขิน ก็ดี ตลกด้วย ฮาด้วย ยิ่งเห็นกับน้องเอลฟ์น้องเอิร์ธ ยิ่งอบอุ่น นีนี่ยังคงออร่าจับเสมอไป สวยด้วย สวยจริง นีนี่ดิว่ะ หวังว่าเราคงได้เจอกันในสักวันหลังจากนี้นะนีนี่
แล้วก็ยังมีรุ่น 1 หลายคนที่เอาใจช่วยอยู่ เช่นโอชิมหาชนอีกคนอย่าง สิตา ที่แบบเรายอมรับน้องในความซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเอง และคือนิยามของความว่า ไอดอล ของแท้เลย มันเลยทำให้เรารู้สึกว่า เราได้เห็นถึงความทะเยอทะยาน ซึ่งจริงๆ มันเป็นเรื่องปกติ และมีอยู่ในทุกคนนั่นแหละ แต่ของสิตามันจะออกมาชัดเจน เห็นชัด แล้วก็แบบคนนี้มันน่าเชียร์หว่ะ แล้วก็เชียร์อยู่จริงๆ เหมือนก็อยากเห็นน้องประสบความสำเร็จตอบแทนความพยายามนั้นจริง ๆ อีกคนนึงก็คือ น้องมีน (Meen CGM48) น้องเป็นคนสวย น่ารัก ยิ่งแต่งหน้า ทำผม ใส่ชุดสวยๆ แสงดีๆ คือยิ่งสวยเลยอ่ะ ไม่มีอะไรหรอก ฟังน้องเมาท์สนุกมาก ฉ่ำมาก
แล้วก็ผมรู้สึกว่าทั้งน้องมีน น้องสิตา น้องทั้งสองคนจัดการอารมณ์ แล้วก็บริหารการสื่อสารออกมาได้ดีขึ้นมาก ๆ เลย ผมว่ามันเป็นทักษะที่สำคัญนะ ซึ่งผมเองก็อยากจะมีความสามารถแบบนี้บ้างเหมือนกัน ผมว่ามันต้องมีหลักการและประสบการณ์พอสมควรเลย เวลามีอะไรไม่สบายใจ อยากจะสื่อสารอะไร อยากจะเตือนอะไร ซึ่งแน่นอนข้อความนั้นอาจจะสร้างบรรยากาศที่ลบลงมาใน Live นิดนึง แต่น้องสามารถแบบสื่อสารที่ได้ความเหมือนกัน แต่บรรยากาศมันไม่เป็นลบได้ เช่น แบบพูดที่เล่นที่จริงบ้าง ปรับมาพูดตรงนั้นตรงนี้บ้าง อ้อนบ้าง อะไรบ้าง ซึ่งผมว่ามันเป็น Skill ที่ไม่ได้ว่าทุกคนจะทำได้ และเป็น Soft Skill ที่สำคัญเลย เคยให้คนรับสารรับรู้ว่าตรงนี้ต้องแก้ไขนะ แต่ก็ไม่ได้ Down หรือไม่ได้รู้สึกไม่ดี รวมถึงผู้รับสารคนอื่นก็ไม่ได้มีบรรยากาศที่ Negative อ่ะ ผมว่าหาคนแบบนี้ได้ไม่มากเท่าไหร่นะ ท้ายที่สุดก็น้องคนิ้ง ผมขอเลื่อนตำแหน่งจากโอชิสามัญประจำวง เป็นโอชิเลยละกัน ไม่มีอะไรมาก น้องน่ารักมาก ทั้งหน้าตาและนิสัย น้องเป็นเด็กน่ารัก น่าเอ็นดู เก่งด้วย เป็นกำลังใจให้นะ
สายลมแห่งการก้าวเดิน
แน่นอนว่าเวลาไม่ช้าหรือเร็วมันก็จะมาถึง วันที่เมมเบอร์แต่ละคนจะแยกย้ายออกไปทำตามฝันของตัวเอง จะออกจากโรงเรียน CGM48 หลังนี้ ตอนแรกผมก็เป็นห่วง CGM48 เหมือนกันว่า จะเอายังไงดีหละ หลังจากนี้จะรอดหรือเปล่า แต่หลังจากการมาถึงของเพลง เนินเขาแห่งความฝัน มันเหมือนเป็นสายลมที่ใช่ ที่มาในเวลาที่เหมาะสมทันที CGM48 เหมือนจากที่หกล้มหมดแรงไปบ้าง กลับมามีแรงวิ่งต่อไป ต่อให้ตอนนี้กระแสของวง CGM48 จะสู้ BNK48 ไม่ได้ แต่ผมว่าตอนนี้คือน่าเชียร์ และเชียร์ขึ้นแน่นอน
ส่วนตัวผมเองก็มองว่า BNK48 และ CGM48 ไม่ใช่และไม่จำเป็นต้องมาเป็นคู่แข่งกันนะ สองวงนี่อยู่ในสถานะเติมเต็มให้กันแบบที่เป็นอยู่ในช่วงซิงเกิ้ล/อัลบั้มล่าสุด ของทั้งสองวงแบบนี้อ่ะดีแล้ว ให้ฟีลลิ่งแบบคนละฟีลกันไปเลย แต่ก็นั่นแหละ มันก็ไม่ได้มีเฉพาะความชอบของผมคนเดียว หรือ ของแฟนคลับใครคนใดคนหนึ่งอย่างเดียว มันก็ยังมีในเรื่องของทำยังไงให้เจาะตลาดให้ได้ มีอะไรให้น้องๆ ได้เติบโตในเส้นทางอื่น ๆ ผสมกัน ซึ่งแน่นอนว่าอย่าเอาความคิดของผมหรือ ของคนใดคนหนึ่งไปเป็นกรอบล็อก CGM48 ไว้เลยครับ ให้น้องๆ ได้ก้าวเดินอย่างเต็มที่ตามแนวทางที่ผู้บริหารและทีมงาน รวมถึงน้อง ๆ เห็นว่าเหมาะสม เราพร้อมจะสนับสนุนเสมอถ้ามีโอกาส
สำหรับน้องๆ CGM48 รุ่นที่ 1 ที่จะจบการศึกษาไป พวกน้องคือบุคคลสำคัญในวงการบันเทิงของไทยเลยนะ ผมเชื่อว่าการมีอยู่ของ CGM48 และเพลงต่างๆ ของพวกเขา ได้สร้างหลายๆ อย่างให้กับสังคมไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อมก็ดี เพลงเหล่านี้มันสามารถฮีลใจคนในสังคมได้ สามารถทำให้คนที่ไม่ไหว ลุกขึ้นมาสู้ต่อ ช่วยให้คนที่ต้องทำงานดึกๆ มีแรงทำต่อ ช่วยเป็นแรงบันดาลใจเด็กๆ ในการทำตามความฝัน หรือ แม้แต่บางคนก็ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจา CGM48 ที่ไทย ซึ่งวงก็ยังเป็น Soft Power อันนึงเลย
ขอบคุณนะครับสำหรับการที่เราได้รู้จักกัน ได้ฟังเพลงเพราะๆ ความหมายดีๆ มีเมมเบอร์น่ารัก ๆ ให้เราได้ตามกัน ขอบคุณที่ทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น และเป็นสมบัติของมนุษยชาติต่อไปครับ
ด้วยรัก ถึง CGM48 First Generation
ขอขอบคุณรูปภาพบางส่วนจาก SNS ของ CGM48 และ BNK48 นะครับ รูปเป็นลิขสิทธิของ Independence Artist Managment (iAM) Co., Ltd. นะครับ